หมวดหมู่: ข่าวสังคมทั่วไป

งูเหลือมยักษ์ขนาดใหญ่ประมาณ 7เมตร รัดคอหนุ่มวัย 16 ปีเสียชีวิต

          มีรายงานข่าวมาจากสำนักข่าวของกระปุกดอทคอมซึ่งมีการนำข่าวมาจากเว็บไซต์ของต่างประเทศอีกต่อหนึ่งเป็นการระบุเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของชายหนุ่มวัย 16 ปีที่ต้องมาสังเวยชีวิตตนเองเพราะว่าถูกงูเหลือมตัวใหญ่ขนาด 7 m รัดจนเสียชีวิต  สำหรับเด็กชายวัย 16 ปีที่เสียชีวิตนี้ครับนี้เขามีชื่อว่า อัลเฟียน  โดยตามรายงานข่าวนั้นไม่ได้ระบุว่าหนุ่มวัย 16 ปีนี้

เป็นคนประเทศอะไรเพียงแต่มีข้อความระบุว่า อัลเฟียน และเพื่อนๆของเขาอีกหลายคนนั้นได้มีการชักชวนกันไปเที่ยวน้ำตกซึ่งระหว่างที่พวกเขากำลังเดินทางไปเที่ยวน้ำตกนั้นปรากฏว่ามีช่วงจังหวะหนึ่งที่อัลเฟียนนั้นเดินอยู่ด้านหลังสุดของเพื่อนๆอย่างไรก็ตามขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเพื่อนๆของอัลเฟียนก็ได้ยินเสียงร้องของเขาขอความช่วยเหลือ

แล้วเมื่อหันหลังกลับไปก็พบว่า อัลเฟียนกำลังถูกงูเหลือมขนาดใหญ่รัดตัวอยู่โดยลักษณะของการรัฐของงูเหลือมนั้นรักทั้งลำตัวและขอดวงถึงขณะเดียวกันนั้นหัวของงูเหลือมกำลังอยู่บริเวณปลายเท้าของอัลเฟียน ซึ่งลักษณะการวัดแบบนี้นั่นหมายถึงว่างูเหลือมตัวดังกล่าวนั้นพร้อมที่กำลังจะกินอัลเฟียนเข้าไปในร่างกายแล้วเมื่อเพื่อนๆเห็นดังนั้นจึงพากันวิ่งเข้ามาช่วยโดยหลายคนนั้นได้หาไม้พยายามตีทำร้ายงูเหลือมตัวดังกล่าวแต่ยิ่งเพื่อนของอัลเฟียนตีงูมากเท่าไหน

มันก็ยิ่งรัดร่างของอัลเฟียนแน่นขึ้นมาเท่านั้นและที่สำคัญงูเหลือมตัวดังกล่าวน่าจะหิวมากเพราะมันค่อนข้างดุร้ายระหว่างที่มันกำลังรัดร่างของอัลเฟียน หัวของมันนั้นก็ต่อสู้กับกลุ่มเพื่อนๆของอัลเฟียนไปด้วยและได้ทำร้ายเพื่อนของอัลเฟียน  ได้รับบาดเจ็บไปทั้งสิ้น 2 คนด้วยกันโดยมันทำการกัดเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่พยายามเข้ามาช่วยเหลืออัลเฟียน 

อย่างไรก็ตามเมื่อเพื่อนของอัลเฟียนเห็นว่าไม่สามารถต่อสู้กับงูได้พวกเขาจึงได้วิ่งไปร้องขอให้ชาวบ้านนั้นมาช่วยเหลือโดยชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวก็ร่วมใจกันนำอาวุธมีทั้งมีดและขวานพากันมาลงสักร่างกายของงูเหลือมตัวดังกล่าวจนในที่สุดก็ตายแต่ก็เป็นที่น่าเสียใจว่าพวกชาวบ้านและเพื่อนๆของอัลเฟียน ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเขาได้ทัน

เพราะในที่สุดนั้นอัลเฟียน  ก็เสียชีวิตจากการที่เขาถูกงูเหลือมรัดเป็นเวลานานนั่นเองอย่างไรก็ตามศพของ อัลเฟียน ได้ส่งไปให้ทางญาติและผู้ปกครองของอัลเฟียน เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อนำไปประกอบพิธีเกี่ยวกับศพทางด้านศาสนาต่อไปอย่างไรก็ตามสำหรับเพื่อน 2 คนของอัลเฟียน  ที่ถูกงูเหลือมกัดด้วยนั้นตอนนี้ก็กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝนงูจึงมักจะมีชุกชุม

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ไม่ผ่านเอเย่นต์

สามเณรซึ่งเป็นญาติกันฆ่ากันตายเพราะเกม rov 

        การที่เกิดขึ้นเกิดเมื่อวันที่ 11  เดือนมิถุนายน ปีพ. ศ. 2563  โดยเกิดขึ้นที่วัดบ้านหนองโดนจังหวัดมหาสารคามซึ่งชาวบ้านได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เดินทางไปชันสูตรศพสามเณรเกียรติศักดิ์ซึ่งถูกมีดแทงจนเสียชีวิตเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบศพสามเณรเกียรติศักดิ์นอนอยู่และใกล้ๆกันนั้นมีสามเณร อีกคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆศพ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นทราบว่าสามเณรทั้งสองคนนั้นเป็นญาติกันและมาบวชเรียนในช่วงที่ปิดเทอมซึ่งสามเณรที่เสียชีวิตนั้นอายุ 18 ปีส่วนอีกคนนึงนั้นอายุ 13 ปีอยู่ระดับเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งก่อนเกิดเหตุนั้นสามเณรที่ก่อเหตุทำร้ายพี่ชายตนเองจนถึงชีวิตนั้นได้เล่าว่า

เมื่อวานทั้งคู่รวมทั้งสามเณรคนอื่นๆได้มีการเล่นเกมร่วมกันซึ่งเป็นเกม rov โดยนัยคือดังกล่าวนั้นสามเณรวัย 13 ปีเป็นคนเล่นชนะแต่หลังจากเล่นชนะแล้วก็ถูกพี่ชายนั้นหลักฐานและบอกว่าจะแก้แค้นแล้วก็ยังมาต่อว่าเหมือนไม่พอใจที่ตนเองชนะซึ่งหลังจากที่รุ่งเช้าไปบิณฑบาตกลับมาและฉันข้าวเช้ากันแล้วสามเณรวัย 18 ปีก็ยังมาพูดจาต่อว่าว่าจะมีการแก้แค้นในเกม

และยังบอกด้วยว่าสามเณรวัย 13ปีนั้นเป็นคนขี้แย ปกติทั้งคู่แต่อยากมีกันรุนแรงแบบนี้อยู่แล้วแต่ว่าช่วงเวลาที่เกิดเหตุนั้นหลังจากที่ถูกล้อสามเณร 13 ปีจึงได้เดินออกมาจากตรงบริเวณที่กินข้าวมายังใต้ถุนกุฏิแต่สามเณรรุ่นพี่ก็ยังตามมาต่อว่าอีกทำให้ตนนั้นไม่พอไก่จึงได้เดินเข้าไปข้างในกุฏิ

เพื่อหามีดในขณะที่สำนักงานรุ่นที่นั้นวิ่งเข้ามาเหมือนจะเข้ามาหยอกล้อแต่บังเอิญว่าไปสะดุดกับเปลที่ผูกเอาไว้จนล้มซึ่งจังหวะนั้นเองสามเณรวัย 13 ปีได้ขว้างมีดออกไปพอดีและด้ามมีดเกิดหลุดตัวมีดที่เป็นเหล็กนั้นกระเด็นออกจากมือและพุ่งเข้าไปปักที่หน้าอกของสามเณรรุ่นพี่พอดี

ซึ่งบาดแผลมีความลึกถึง  10 cm ทำให้สามเณรรุ่นพี่นั้นเสียชีวิตทันทีหลังจากนั้นเมื่อเห็นว่ามีดปักที่หน้าอกของสามเณรรุ่นที่สามเณรที่ก่อเหตุก็ได้วิ่งไปตามให้คนมาช่วยแต่เมื่อมาถึงสามเณรรุ่นพี่ก็เสียชีวิตไปแล้วจึงได้ให้ชาวบ้านแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและตนเองก็ยืนรอมอบตัวอยู่

ซึ่งระหว่างรอตำรวจเดินทางมานั้นทางเจ้าอาวาสก็ได้มีการทำการสึกให้กับสามเณรวัย 13 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดมาจากการที่เกิดการหยอกล้อกัน รุนแรงเกินไปจนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่น่าเศร้านี้ขึ้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนัน แจกเครดิตฟรี ไม่ต้องฝาก

นักเล่นเซิร์ฟถูกฉลามขาวโจมตีกัดขาจนเสียชีวิตคาชายหาด

เมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายนปีพศ2563      สำนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบริเวณริมชายหาดซึ่งเป็นชายหาดทางตอนเหนือของรัฐนิวเซาท์เวลส์   ที่อยู่ในประเทศออสเตรเลียเดินในข้อความข่าวนั้นเป็นเรื่องที่ช็อคให้กับคนทั้งประเทศเป็นอย่างมากโดยมีการรายงานระบุออกมาว่าในขณะที่นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวเล่นริมชายหาดรวมถึงมีคนเล่นเฟซอยู่ตรงบริเวณนอกชายหาดนั้นอยู่ๆก็มีฉลามตัวหนึ่งทุ่มตรงเข้ามากัดนักเล่นเซิฟซึ่งในขณะนั้นมีคนเห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้อยู่หลายคนและพวกเขาก็พยายามที่จะเข้าไปช่วยชายที่ถูกฉลามกัด

แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าพวกเขานั้นจะสามารถที่จะช่วยเหลือชายหนุ่มคนที่เล่นเซิร์ฟเอาไว้ได้แต่ชายคนดังกล่าวก็เสียชีวิตตรงบริเวณริมชายหาดนั่นเองเนื่องจากว่าเขาเสียเลือดมากเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 7 เดือนมิถุนายนพ.ศ 2553 ซึ่งเป็นเวลาราวๆ 10:00 นในสนามที่พุ่งตรงมาทำร้ายนักท่องเที่ยวตรงบริเวณชายหาดนั้นเป็นฉลามขาว

ซึ่งมีขนาดความใหญ่อยู่ที่ประมาณ 3 เมตรมันได้พุ่งเข้าตรงทำร้ายชายคนหนึ่งอายุประมาณ 60 ปีซึ่งกำลังเล่นเซิร์ฟอยู่ขนาดนั้นโดยฉลามขาวนั้นได้เข้าไปกับพี่ต้นขากล่องชายคนดังกล่าวอีกทั้งมายังว่ายวนไปมาและพยายามไหว้ชนบอร์ดของคนที่เล่นเซิฟอยู่ในบริเวณนั้นซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัวที่มีฉลามขาวหลุดมาฆ่าคนถึงริมชายหาดเป็นอย่างมากทั้งนี้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลหาดได้มีการประกาศสั่งห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำแต่ถ้าใครที่อยู่ในน้ำก็ต้องรีบขึ้นมาทันที

โดยมีการนำเรือและจะออกไปบริเวณท้องทะเลเพื่อตามหาคนที่อาจจะหลงเหลืออยู่ที่กลางทะเลพร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งนั้นออกไล่ล่าฉลามขาวตัวดังกล่าวที่กลางทะเลด้วยสำหรับที่ประเทศออสเตรเลียนั้นการไล่ล่าฉลามไม่ผิดกฎหมายถ้าหากสามารถยืนยันได้ว่าฉลามตัวดังกล่าวนั้นทำอันตรายมนุษย์แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่สามารถตามตัวมันเจอได้ว่ามันว่ายน้ำไปหลบซ่อนอยู่ที่ไหนเลย

เขาพยายามตามหาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแต่ก็ไม่พบร่องรอยของสนามตัวดังกล่าวสำหรับปัญหาที่นักท่องเที่ยวนั้นถูกฉลามทำร้ายนั้นสำหรับที่ประเทศออสเตรเลียแล้วครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 1 ปีสร้างความเสียใจและความหวาดกลัวให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่บริเวณชายหาดนี้เป็นอย่างมากดังนั้นตอนนี้นักท่องเที่ยวจึงไม่สามารถที่จะไปเที่ยวริมชายหาดที่มีปรากฏข่าวเรื่องของฉลามออกมาวาดได้จนกว่าเจ้าหน้าที่จะมั่นใจในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวถึงจะได้มีการประกาศเปิดการท่องเที่ยวริมชายหาดในอีกครั้งหนึ่ง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sagame

หนุ่มขับรถกระบะพุ่งชนรถในโชว์รูมเสียหาย 3 คันรวด

      มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ตรงบริเวณถนนเศรษฐกิจอำเภอกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาครเมื่อมีพ่อค้าคนหนึ่งขับรถกระบะมาตามเส้นทางดังกล่าวโดยหวังที่จะกลับบ้านหลังจากที่มีการไปขายของมาแล้วแต่มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุกลับพบปัญหาระบบเบรคของรถกระบะตนเองนั้นขัดข้องทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้และลดได้เลี้ยวพุ่งเข้ามาในโชว์รูมซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างถนนส่งผลให้รถที่จอดอยู่ในโชว์รูมนั้นได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 3 คันด้วยกันซึ่งประเมินความเสียหายเบื้องต้นแล้วมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท

            โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ซึ่งในภาพวงจรปิดจะเห็นว่ามีรถกระบะคันหนึ่งวิ่งมาแล้วพุ่งเข้าชนโชว์รูมทันทีโดยผู้ที่เป็นเจ้าของรถกระบะนั้นชื่อว่านายเสถียรซึ่งเขาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเราและภรรยานั้นเป็นพ่อค้าขายของซึ่งจะวิ่งรถกระบะไปขายของตามตลาดนัดยังสถานที่ต่างๆ

และในวันที่เกิดเหตุนั้นตัวเขาเองและภรรยาก็ไปขายของที่ตลาดนัดเหมือนเคยหลังจากที่มีการขายของเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเขาก็ขับรถมาตามถนนเล่นเศรษฐกิจแต่ระหว่างที่ขับรถประมาณนั้นอยู่ๆรถของเขาก็เกิดมีเสียงดังกึกกักและระบบเบรคก็ไม่สามารถที่จะทำงานได้หลังจากนั้นรถก็มีอาการส่ายไปมาแล้วก็พุ่งเข้าชนร้านโชว์รูมซึ่งมีการสร้างอยู่ตรงข้างริมถนนใหญ่นั่นเองและจากการที่พวกตนในครั้งนี้ส่งผลให้รถในโชว์รูมดังกล่าวนั้นได้รับความเสียหายจำนวนทั้งสิ้น 3 คัน

ส่วนทางด้านลดของนายเสถียรเองก็ได้รับความเสียหายมากเหมือนกันรวมถึงเข้าของที่นำไปขายตามตลาดนัดก็ได้รับความเสียหายค่อนข้างเยอะเสถียรบอกเล่าถึงเรื่องรถคันดังกล่าวว่าช่วงที่รถมีปัญหาระบบเบรคนั้นเขาพยายามที่จะควบคุมรถแล้วแต่ไม่สามารถที่จะควบคุมรถได้ซึ่งรถคันที่เขาขับมานี้เขาซื้อมาตอนที่เป็นรถมือสองและขับรถนี้มานาน 1 ปีแล้วก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรมาก่อนอย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้มีการเก็บข้อมูลหลักฐานจากกล้องวงจรปิด

และได้นำรถกระบะที่เกิดเหตุไปให้ทางผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องของรถยนต์ได้มีการตรวจสอบระบบเบรกเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาการกระทำความผิดในครั้งนี้อย่างไรก็ตามทางด้านโชว์รูมก็จะต้องมีการเรียกเก็บค่าเสียหายจากนายเสถียรและภรรยาจากการที่รถตั้ง 3 คันของเขานั้นได้รับความเสียหายรวมถึงโชว์รูมนั้นได้รับความเสียหายเหมือนกัน

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน

ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกยอดรวมกันทะลุหกล้านคนไปแล้ว

           ในขณะนี้นั้นแม้ทุกประเทศทั่วโลกจะเริ่มผ่อนปรนสถานการณ์ภายในประเทศของตนเองให้ประชาชนได้สามารถเอามาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติแล้วและมีบางประเทศที่สามารถที่จะควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรน่าได้แล้วแต่อย่างไรก็ตามจำนวนยอดผู้ติดเชื้อจากผู้รวบรวมกันในขณะนี้นั้นพบว่ามียอดที่สูงมากซึ่งตอนนี้นั้นยอดผู้ติดเชื้อเกิน 6 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้วที่สำคัญในตอนนี้นั้นหลายประเทศเริ่มที่จะมีการประกาศคลายล็อกดาวประเทศของตนเองซึ่งนั่นจะนำมา

ซึ่งปัญหาที่ตามมาอีกอย่างมากมายเนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เราได้รับประสบการณ์มาจากต่างประเทศเช่นประเทศญี่ปุ่นซึ่งสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรน่าได้แต่เมื่อมีการคลายล็อกดาวน์ เปิดสถานศึกษาและสถานบันเทิงก็ทำให้ประชาชนกลับมาติดเชื้อไวรัสคนละหน้าเพิ่มมากขึ้นซึ่งการกลับมาติดเชื้อครั้งที่ 2 นี้

ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวันนั้นเพิ่มขึ้นมากเป็นเท่าตัวเลยทีเดียวและไม่ใช่ที่ประเทศญี่ปุ่นประเทศเดียวเท่านั้นที่เมื่อมีการคลายล็อกดาวประเทศแล้วยอดจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นประเทศจีนหรือแม้แต่ประเทศเกาหลีใต้เองก็กำลังประสบปัญหาเดียวกันซึ่งในขณะนี้เราต้องมาดูว่าประเทศไทยที่กำลังจะมีการคลายล็อกดาวน์เฟสที่ 3

ซึ่งกำลังจะเริ่มมีผลวันที่ 1 มิถุนายนนี้จะเป็นยังไงบ้างและยิ่งถ้า 1 กรกฎาคมนั้นมีการเปิดการเรียนการสอนของเด็กนักเรียนแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อจะขยับกลับมาเยอะมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่ต้องลองมาดูอีกทีแต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทั่วโลกรวมกันในตอนนี้นั้นพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจากทั่วโลกมียอดสูงขึ้นมากโดยเฉพาะในเขตอเมริกาและยุโรปซึ่งประเทศเหล่านั้นกำลังมีการทยอยคลายล็อกดาวน์ประเทศของตนเองเช่นเดียวกัน ให้เรานั้นยังไม่สามารถที่จะควบคุม

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ได้เลยก็ตามแต่เนื่องจากว่าหากยังคงมีการปิดล็อกต่อไปนั้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไม่กระเตื้องและจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมากดังนั้นหลายประเทศผู้นำจึงต้องตัดสินใจที่จะให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้นั่นเอง

ซึ่งหลังจากนี้ทั่วประเทศจะต้องมีการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมจากที่ผ่านมาทุกคนจะต้องมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยรวมถึงจะต้องมีการล้างมือบ่อยๆและควรจะต้องเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 เมตรถึง 2 เมตรเพื่อที่จะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19ส่งถึงการนั้นเองเราสามารถที่จะดูแลบุคคลในประเทศของเรา

ได้แบบนี้ก็จะทำให้ประเทศนั้นสามารถหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าได้แต่ถ้าหากประชากรของประเทศไหนไม่ให้ความร่วมมือและเราก็รับรองว่าการกลับมาของไวรัสรอบที่ 2 นั้นจะทำให้ประเทศนั้นๆได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงมากกว่าครั้งแรกเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน มั่นคง

เหตุกราดยิงเจ้าหน้าที่ สวท. จังหวัดพิษณุโลก

เหตุกราดยิงเจ้าหน้าที่ สวท. จังหวัดพิษณุโลก คนร้ายอ้างทนแรงกดดันไม่ไหวถูกต่อว่าบ่อยครั้ง

                 ที่จังหวัดพิษณุโลกเกิดเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 คนและมีผู้บาดเจ็บสาหัสจำนวน 1 คนจากเหตุการณ์กราดหยิ่งในห้องส่งที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลกโดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อว่านายวิมซึ่งเขาเป็นพนักงานการช่างไฟฟ้าที่ทำงานอยู่ในสถานีวิทยุกระจายเสียงที่จังหวัดพิษณุโลกนั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ได้ก่อเหตุการณ์ยิงคนในสถานีวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ไม่ได้เดินทางหนีไปที่ไหนเลยเขายังคงยืนรอมอบตัว

กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยเขาได้มีการให้เหตุผลเกี่ยวกับเรื่องของการกราดยิงในครั้งนี้ว่าเขามีแรงกดดันจากการที่ถูกทางหัวหน้างานนั้นต่อว่าเรื่องของการทำงานอยู่บ่อยครั้งซึ่งการทำงานแต่ละครั้งนั้นเขาจะถูกต่อว่าอยู่คนเดียวเป็นประจำเสมอทำให้เขารู้สึกว่าเขาทนไม่ไหวเกิดความเครียดจึงได้นำอาวุธปืนเดินทางมาที่ห้องส่งแล้วก็ทำการกราดยิงคนที่อยู่ในห้องส่งจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ซึ่งผู้ที่เสียชีวิตหนึ่งในนั้นเป็นถึง ผอ. สวท.พิษณุโลกเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่มีการถ่ายทอดสดดังนั้นประชาชนที่มีการเปิดฟังคลื่นวิทยุดังกล่าวจึงได้ยินเสียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดโดยหลายคนได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าขณะที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นภายในบริเวณห้องตรงนั้นยังได้ยินผู้เสียชีวิตรายหนึ่งพูดเกี่ยวกับเรื่องของการถูกสังหารในครั้งนี้ว่าเขาทำอะไรผิดถ้าเขาทำไงทำให้หลายคนนั้นเกิดความรู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้มากอย่างไร

ก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายวิมไปเรียบร้อยแล้วมีบุคคลอื่นที่ทำงานอยู่ในสถานีวิทยุกระจายเสียงไม่ออกมาให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่านายเป็นคนนิสัยหัวร้อนใครว่าอะไรก็จะเกิดความไม่พอใจก่อนหน้านี้กับผอ. คนเดิมนายวิมก็เคยใช้ปืนขู่เพราะไม่พอใจที่ท่านผอนั้นบอกให้นายวิมขนของเก่าออกไปทิ้งและหลังๆมานี้นายวิม

ก็ก่อเรื่องให้ที่ทำงานได้รับความเสียหายอยู่เป็นประจำจึงทำให้ถูกดุ สำหรับฉนวนเกิดเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากว่าตั้งผอคนใหม่ต้องการที่จะมีการรื้อถอนที่พักอาศัยอยู่นายวิมนั้นได้มีการนำของไปวางไว้จึงได้สั่งให้ย้ายออกเพราะว่าต้องการสร้างเป็นที่พักอาศัยให้กับพนักงานที่ทำงานที่สถานีคลื่นวิทยุนั่นเองอย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบเบื้องต้นและพบว่านายวิมนั้นน่าจะมีอาการทางประสาทซึ่งจะต้องมีการส่งเรื่องนำนายวิม ไปทำการตรวจสอบผลทางประสาทอีกครั้งหนึ่ง 

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ต่างประเทศ

หนุ่มเจอหลวงเจ๊ทักแชทไปหาแล้วจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้

           กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์เมื่อมีชายคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ Facebook ส่วนตัวเกี่ยวกับเรื่องของรูปพระรูป 1 ได้มีการทักข้อความมาหาชวนให้ไปหาที่วัดแล้วจะมีการขายค่าขนมโดยเมื่อถูกเขาปฏิเสธไปพระดังกล่าวก็มีการพิมพ์ข้อความกลับมาโดยระบุว่าให้ระวังตัวให้ดีให้เงินใช้ดีๆแล้วไม่อยากได้อาจจะโดนคนมาฉุด

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ชายหนุ่มได้มีการระบุว่าได้มีการแจ้งความเอาไว้แล้วกับเจ้าคณะ สำหรับข้อความที่โพสต์นี้ใช่หนุ่มคนดังกล่าวได้มีการโพสต์ข้อความรวมถึงรายละเอียดข้อความแชทที่มีการพูดคุยกับพระรูปแห่งหนึ่งซึ่งข้อความนี้ถูกโพสต์เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมปีพศ. 2563 เขาระบุว่าหลวงพ่อที่ไม่ใช่หลวงพ่อแต่กลายเป็นหลวงเจ๊ซึ่งในข้อความนั้นจะเห็นได้ว่าพระรูปนั้นพยายามที่จะเชิญชวนชายหนุ่มให้มาหาที่กุฏิ

แต่ถูกปฏิเสธทำให้ไม่พอใจและข้อความนี้เมื่อมีการเผยแพร่ออกไปมีหลายคนเข้ามาเขียน Comment ถึงชายหนุ่มคนที่โพสต์ว่าพวกเราเองนั้นก็เคยถูกพระรูปนี้ชักชวนให้ไปหาที่กุฏิเช่นเดียวกันหลายคนมองว่าพระองค์นี้อาจจะเป็นพระปลอมจึงได้มีการสร้างเรื่องเชิญชวนให้คนไปหาแต่อย่างไรก็ดีชายหนุ่มที่มีการโพสต์ Facebook ได้มีการระบุมาว่าขณะนี้ตัวเองได้มีการแจ้งเรื่องพฤติกรรมของพระรูปนี้ไปทางเจ้าคณะเรียบร้อยแล้ว

       สำหรับเรื่องของการประพฤติตัวของพระที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังอยู่ขนาดนี้อาจจะต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าที่จริงแล้วข้อความที่ถูกส่งมาหาชายหนุ่มนี้เป็นพระองค์นี้จริงๆที่ต้องการแชทมาหาชายหนุ่มก็ชวนให้ไปที่วัดหรือไม่หรืออาจจะเป็นพระองค์นี้ถูกใส่ร้ายและถูกนำรูปมาเพื่อใส่ร้ายว่าเป็นการกระทำผิดศีลของพระรูปนี้เพื่อต้องการสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับพระรูปนี้กันแน่ดังนั้นตอนนี้ทางเราโซเชียลจึงยังไม่ควรที่จะฟันธงว่าจริงๆแล้ว

พระรูปนี้มีความผิดหรือไม่ต้องรอการสืบสวนสอบสวนก่อนเพราะในขณะนี้พระที่อยู่ในรูปโปรไฟล์ที่กำลังมีการพูดถึงกันอยู่ในขณะนี้ยังไม่ได้ออกมาตอบรับหรือปฏิเสธถึงการกระทำผิดศีลในครั้งนี้และยังไม่ได้มีการออกมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่โด่งดังอยู่ในโลกโซเชียลในขณะนี้ดังนั้นอาจจะต้องรอดูผลการตรวจสอบของทางเจ้าคณะเพิ่มเติม 

     สำหรับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์นั้น เรามักพบเห็นกันอยู่บ่อยครั้งแต่บางครั้งก็อาจจะเป็นการกระทำของฝีมือคนอื่น ดังนั้นต้องรอผลการตรวจสอบเสียก่อน

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sagame888

หนุ่มอาศัยทีเผลอ หลังทำเนียนยืมไฟแช็ก

หนุ่มอาศัยทีเผลอ หลังทำเนียนยืมไฟแช็กมาใช้แล้วก็ย้อนมาฉกมือถือไปต่อหน้าต่อตาเจ้าของ

           ในช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายคนได้รับผลกระทบจากการหยุดการแพร่ระบาดของไวรัสที่รัฐบาลได้มีการประกาศปิดกิจการหรือธุรกิจบางอย่างชั่วคราวทำให้หลายคนต้องตกงานและอดอยากเพราะไม่มีเงินซื้อข้าวกินส่งผลให้ปัจจุบันนี้เรามักจะพบเห็นโจรขโมยชุกชุมและการขโมยของพวกโจรเหล่านี้ก็มาในหลากหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป

โดยล่าสุดได้มีการแชร์คลิปวีดีโอคลิป 1 ลงใน Facebook ซึ่งคลิปวีดีโอนี้จะเห็นได้ว่าที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นลักษณะของห้องแถวมีผู้หญิงคนนึงกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องหลังจากนั้นไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินมาหาเธอและทำทีมาขอยืมไปแชทของเธอเพื่อไปจุดสูบบุหรี่เมื่อหญิงสาวหยิบไฟแช็คส่งให้เขาก็ไปจุดบุหรี่ สูบหลังจากนั้นก็ชวนหญิงสาวคุยสักพักนึงก่อนที่จะนำไปเช็คมาคืนเธอ

เมื่อเธอรับไฟแช็คกับคืนมาแล้วก็เหมือนกับว่าชายคนนั้นจะเดินออกไปเธอจึงได้เดินเข้าห้องพักของตนเองหลังจากนั้นชายคนดังกล่าวย้อนกลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้วเดินเข้าไปในบ้านเธอพร้อมทั้งหยิบมือถือของเธอออกมาแล้ววิ่งหนีหายไปซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่หน้าบ้านของหญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้

จึงทำให้เห็นหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจนซึ่งเธอได้นำคลิปภาพถ่ายนี้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจไว้แล้วแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้เธอจึงได้นำคลิปนี้มาโพสต์ลงโซเชียลเพื่อให้ชาวโซเชียลช่วยตามหาหากใครเจอก็สามารถโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพื่อที่จะได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับกุมตัวชายคนดังกล่าวสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้นั้นเกิดขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่อำเภอนาบอน

         ช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุกคนต้องระวังกันเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องของการเก็บรักษาทรัพย์สมบัติของตนเองให้ดีไม่ว่าการออกไปข้างนอกหรือแม้แต่การเก็บรักษาทรัพย์สมบัติที่อยู่ภายในบ้าน เพราะตอนนี้มีตอนออกอาละวาดชุมชนพื้นที่ซึ่งเมื่อไม่กี่วันนี้เราก็จะได้ข่าวเรื่องของโจรปล้นธนาคารและโจรปล้นหญิงสาวที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารรวมถึงก่อนหน้านั้นก็มีโจรขึ้นบ้านและได้ฆ่าเจ้าของบ้านจนเสียชีวิตยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่มีการปล้นหรือขโมยทรัพย์สินกัน

เนื่องจากว่าตอนนี้ทุกคนต่างก็ตกงานไม่มีเงินใช้ดังนั้นหลายคนจึงได้ปั่นตัวเองจากคนดีๆมาเป็นโจรก็ต้องหาเงินเลี้ยงตนเองเพื่อไม่ให้อดตายซึ่งสถานการณ์นี้คงจะเป็นแบบนี้ไปอีกสักพักหนึ่งจนกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้นดังนั้นในระหว่างนี้หากใครออกนอกบ้านแล้วมีการใส่สร้อยทองก็ควรจะมีการเก็บรักษาไว้ให้ดีอย่าใส่รอดสายตาของโจรไม่เช่นนั้นอาจจะถูกกระชากสร้อยได้

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  bk8

โจรปล้นสาวสหกรณ์การเกษตรได้เงินไปกว่า 1 ล้านบาท

   ที่จังหวัดเชียงรายเกิดเหตุการณ์โจรปล้นสาวพนักงานบัญชีสหกรณ์การเกษตรเชียงแสนโดยคนร้ายได้เงินจากการปล้นในครั้งนี้ไปมากกว่า 1 ล้านบาทซึ่งเหตุการณ์โจรปล้นในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 9:45 นของวันที่ 18 เดือนพฤษภาคมพ.ศ 2563 ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้นางสาววัชรินทร์ได้มีการเล่าเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าในทุกๆวันนั้นตนเองจะต้องมีหน้าที่มาทำการเบิกเงินที่ธนาคารเพื่อนำเงินดังกล่าวไปซื้อข้าวต่อจากชาวบ้านโดยตนเองนั้นทำงานที่สหกรณ์การเกษตรเชียงแสนในวันนี้เธอได้เดินทางมาเบิกเงิน

โดยนำเงินใส่ถุงเงินเอาไว้และมีคนขับรถจอดรออยู่เมื่อเธอถือถุงเงินขึ้นมาบนรถกำลังจะออกรถก็มีชายใส่หมวกกันน็อคเดินมาเคาะกระจกฝั่งที่เธอนั่งเมื่อเธอเปิดกระจกรถถามถึงธุระที่ชายคนดังกล่าวมาเคาะเขาก็กระชากถุงเงินออกไปจากรถทันทีพร้อมทั้งยังหันกระบอกปืนมาที่เธอและคนขับรถพร้อมกับประกาศห้ามไม่ให้คนขับรถขับรถตามหลังจากนั้นก็นำถุงเงินเดินอ้อมไปทางด้านหลังรถซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์ จอดรออยู่หลังจากนั้นก็ขับรถหนีไปโดยเห็นว่ามีการขับรถเข้าไปในซอยที่อยู่ด้านข้างของร้านทวียนต์

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้มีคนเห็นเหตุการณ์เยอะมากแต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ทันเพราะเหตุใดขึ้นเร็วมากโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังมีการประสานงานขอข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางต่างๆและจะรีบดำเนินการจับตัวคนร้ายให้เร็วที่สุดเพราะคดีนี้ถือว่าคนร้ายได้ดำเนินการปล้นแบบอุกอาจมากซึ่งหลังจากมีการติดตามคนร้ายเป็นได้สักระยะหนึ่งก็พบว่าตรงบริเวณถนนซอยหลังธนาคารการเกษตรและสหกรณ์คนร้ายได้มีการทิ้งหมวกกันน็อคเอาไว้ซึ่งตำรวจคาดว่าน่าจะรู้ตัวคนร้ายในเร็วๆนี้เนื่องจากว่าจะมีการนำ DNA จากหมวกกันน็อคไปหาตัวคนร้ายและยังมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆเพิ่มเติม

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายน่าจะรู้จักเส้นทางบริเวณนั้นเป็นอย่างดีและที่สำคัญต้องรู้อีกว่ารถคันไหนที่จะมาเบิกเงินที่ธนาคารแสดงว่าคนร้ายอาจจะเป็นคนที่รู้จักกับคนในธนาคารที่มาเบิกเงินหรือไม่คนร้ายก็ต้องมีมาดูลาดเลาแล้วหลายครั้งถึงรู้ว่านางสาววัชรินทร์จะมาเบิกเงินช่วงเวลาไหนถึงได้ลงมือก่อเหตุได้อย่างถูกต้องแม่นยำอะไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องมีหาเบาะแสจากพนักงานในธนาคารอีกทางหนึ่งด้วยก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันว่าพนักงานในธนาคารอาจจะรู้เห็นในการมาโอนเงินในครั้งนี้ 

      

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8 mobile

คดีน้องชมพู่ตำรวจตั้งข้อสงสัยไว้สองเรื่องส่วนแม่น้องนั้นอยากฆ่าคนร้ายให้ตายตามน้อง

             ยังคงเป็นข่าวที่น่าเศร้าสลดสำหรับใครหลายคนที่ได้ติดตามข่าวของน้องชมพู่หนูน้อยวัยกำลังน่ารักอายุเพียงแค่ 3 ขวบเท่านั้นที่หายตัวออกจากบ้านที่จังหวัดมุกดาหารเป็นระยะเวลา 4 วันถึงมาพบศพน้องบริเวณภูเขาหลังหมู่บ้านสภาพศพของน้องนั้นอยู่ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่าแต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนำร่างของน้องไปตรวจพิสูจน์หาหลักฐานร่องรอยการถูกข่มขืนกับพบว่าน้องยังไม่ได้ถูกข่มขืนแต่อย่างใด

ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นทางครอบครัวของน้องได้ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยมีการระบุว่าอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้เพราะคนร้ายจิตใจอำมหิตมากที่ทำร้ายเด็ก 3 ขวบได้ลงคอและพ่อแม่ของน้องก็ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับคนในหมู่บ้านคนไหนมาก่อนซึ่งก่อนหน้านี้ที่มีคนถามเรื่องของการที่พ่อของน้องมีเรื่องทะเลาะกับน้องชายเกี่ยวกับเรื่องของรถมอเตอร์ไซค์นั้น

แม่ของน้องยืนยันว่าไม่เชื่อว่าน้องชายจะพาน้องไปฆ่าเพราะเรื่องทะเลาะกันนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นซึ่งพี่น้องก็สามารถทะเลาะกันได้และไม่ใช่เรื่องที่รุนแรงถึงขนาดที่จะต้องฆ่าแกงกันครั้งก่อนหน้านี้มีคนเคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าสงสัยคนในหมู่บ้านที่มีอาการเหมือนคนบ้าซึ่งเคยมาเล่นกับน้องชมพู่อยู่ประมาณ 2 ครั้งนั้นแม่ของน้องยืนยันว่ายังไม่เคยทราบว่าชายที่เป็นบ้าคนดังกล่าวคือใครส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการจับกุมตัวผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างบ้านห่างจากบ้านของน้องชมพู่ประมาณ 250 เมตรนั้น

จากการตรวจสอบเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันได้ว่าชายคนดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการฆ่าน้องชมพู่อย่างแน่นอนเนื่องจากมีการนำหลักฐานทางดีเอ็นเอ ยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการหายตัวไปของน้องชมพู่แน่นอน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งประเด็นเกี่ยวกับการหายตัวไปและการเสียชีวิตของน้องชมพู่ไว้ 2 กรณีนั่นก็คือกรณีแรกนั้นอาจจะมีบุคคลที่สามที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้านแล้วมาลักพาตัวน้องชมพู่ออกไปกับพี่กรณีหนึ่งนั่นก็คือน้องอาจจะมีการเล่นเพลินแล้วเดินหลงทางเข้าไปในป่าเอง

ก็เป็นได้สำหรับเนื้อเรื่องหัวข้อนี้นั้นทางแม่ของน้องชมพู่ได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นไปไม่ได้ที่น้องชมพู่นั้นจะเดินหลงป่าเข้าไปเองเพราะบริเวณที่พบศพน้องชมพู่นั้นห่างจากบ้านประมาณ 5 กม. ด้วยกันที่สำคัญหลังบ้านนั้นเป็นป่า ที่รกมากมากซึ่งไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ปกติแล้วผู้ใหญ่ก็ยังต้องขับรถไปเลยเพราะมีความใกล้ถึง 3 กิโลเมตร ส่วนที่เหลืออีก 2 กิโลเมตรนั้นก็เป็นพื้นที่บนเขาเชื่อแน่นอนว่าเด็กอายุแค่เพียง 3 ขวบเท่านั้น

ไม่มีทางที่จะเดินทะลุป่าไปถึงภูเขาได้แน่นอนถึงแม่ของเด็กยังพูดอีกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาได้สักทีเพราะอยากจะรู้ว่าเหตุผลอะไรถึงได้จับตัวน้องไปและทำไมถึงได้ฆ่าน้องให้ตายเพราะน้องเองก็เปลี่ยนเป็นเด็กและไม่เคยไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใครและตัวพ่อกับแม่ของเด็กเองก็มั่นใจว่าตนเองนั้นไม่เคยทำร้ายใครให้มีการเจ็บแขนมากมายถึงขนาดที่จะสามารถฆ่ากันให้ตายได้

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทางเข้าbk8