แต่ผู้สูงอายุถูกทิ้งไว้ข้างหลังในยุคไร้การติดต่อใหม่ เช่นเดียวกับหลายๆ คนทั่วโลก Lee Ye-rin ใช้เวลาส่วนใหญ่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาตามลำพังที่บ้าน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา พนักงานออฟฟิศวัย 32 ปีจึงทำงานทางไกลจากอพาร์ตเมนต์ของเธอในกรุงโซล
เธอหลีกเลี่ยงการไปยิมโดยการฝึกซ้อมที่บ้านและสตรีมภาพยนตร์ทางทีวีมากกว่าไปดูหนัง เธออ่าน e-books แทนที่จะไปห้องสมุดซึ่งปิดทำการในช่วงที่มีโรคระบาด
“ฉันไม่ค่อยได้กินข้าวนอกบ้านเลยตั้งแต่มีการระบาด” ลีกล่าว “แต่ฉันสั่งอาหารแบบซื้อกลับบ้านและแม้แต่ไอศกรีมเป็นของหวานในแอพเดลิเวอรี่แทน เมื่อฉันเบื่อกับสิ่งนั้น ฉันจะสั่งวัตถุดิบจากร้านขายของชำและทำอาหารที่บ้าน”
วิถีชีวิตที่โดดเดี่ยวนี้กลายเป็น ‘ความปกติใหม่’ สำหรับหลาย ๆ คน นับตั้งแต่มีการประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และคำสั่งให้อยู่ในที่พักพิง แต่สำหรับชาวเกาหลีใต้ มันกำลังดำเนินไปตั้งแต่ก่อนที่โควิด-19 จะโจมตีด้วยซ้ำ ในความเป็นจริงมีคำสำหรับมัน Untact’ คำนำหน้า ‘un’ และคำว่า ‘contact’ ผสมกัน
มีอยู่ในแวดวงการตลาดตั้งแต่ปี 2560 โดยอธิบายถึงการทำสิ่งต่าง ๆ โดยไม่ติดต่อโดยตรงกับผู้อื่น เช่น การใช้ตู้บริการตนเอง
การซื้อของออนไลน์ หรือ ชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัส บางคนเชื่อว่านี่เป็นความก้าวหน้าตามธรรมชาติในสังคมสมัยใหม่อย่างเกาหลีใต้ ซึ่งมีบาริสต้าหุ่นยนต์ สตูดิโอแต่งหน้าเสมือนจริง และธุรกรรมทางการเงินดิจิทัลที่มีประชากรสูงอายุและกำลังแรงงานที่ลดลง
นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 คำว่า ‘Untact’ ได้เปลี่ยนจากการเป็นคำฮิตติดปากมาเป็นนโยบายของรัฐบาลกลาง แผนเศรษฐกิจ “New Deal” ของประธานาธิบดี Moon Jae-in ที่เพิ่งประกาศรวมถึงคำมั่นสัญญาที่จะ “ส่งเสริมอุตสาหกรรมที่ไม่เสียหาย” เช่น การดูแลสุขภาพระยะไกลและการดูแลผู้สูงอายุ สำนักงานเสมือน และการสนับสนุนอีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
ชะตากรรมของคนรุ่นมิลเลนเนียลของเกาหลี ความขัดแย้งทางประชากรของเกาหลีใต้ คนชราที่ ‘วางตัว’ ของเกาหลีการสำรวจในท้องถิ่นเมื่อเร็วๆ นี้โดยเครื่องมือค้นหางาน Saramin แสดงให้เห็นว่า 71.6% ของผู้ใหญ่ชาวเกาหลีใต้รู้สึกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ “ไม่เปลี่ยนแปลง”
ของพวกเขาเพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดโดยตรง แต่ในประเทศที่ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุด การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสังคมที่มีการสัมผัสน้อยที่สุดได้ทิ้งผู้สูงอายุจำนวนมากไว้เบื้องหลัง
การเรียนรู้ชีวิตที่เชื่อมต่ออย่างเชี่ยวชาญ ในขณะที่เกาหลีใต้มีโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่น่าประทับใจโดยมีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเกือบ 96% ตามการสำรวจในปี 2019 ที่จัดทำโดย National Information Society Agency (NIA) มีเพียง 29.2% ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปกล่าวว่าสามารถติดตั้งและ ใช้แอปพลิเคชันบนมือถือ
และมีเพียง 22.7% เท่านั้นที่กล่าวว่าพวกเขาใช้อีคอมเมิร์ซ ในความเป็นจริง การวิจัยจากมหาวิทยาลัยกรีนิชพบว่าฟังก์ชันที่ใช้บ่อยที่สุดที่คนอายุมากกว่า 60 ปีใช้ในเกาหลีใต้คือการโทรออกและตรวจสอบเวลา เปรียบเทียบกับคนเกาหลีอายุ 30-39 ปีที่มีระดับการใช้อินเทอร์เน็ตอยู่ที่ 100% กับผู้ที่มีอายุระหว่าง 10 ถึง 29 ปีอยู่ที่ 99.9%
สนับสนุนโดย หวยออนไลน์บาทละ 1000
