หมวดหมู่: ข่าวสังคมทั่วไป

คนร้ายขโมยรถตำรวจหลบหนี

สำหรับเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นมาช่วงบ่ายวันที่10ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาก็ได้ขับรถยนต์ออกไปตรวจตราดูแลความเรียบร้อย ผลปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พบรถกะบะคันหนึ่งที่ได้จอดอยู่ข้างทางจากนั้นดูท่าทีเหมือนจะดูมีพิรุธ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขับรถยนต์เข้าไปขวางที่หน้ารถของผู้ต้องสงสัยจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ลงรถยนต์

มาเพื่อที่จะขอทำการตรวจค้นรถกะบะคันที่ดูมีพิรุธ ผลปรากฎว่าคนร้ายก็ได้อาศัยจังหวะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเข้าทำการตรวจรถเขาก็ได้วิ่งขึ้นไปที่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนั้นก็ได้ขับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับหลบหนีไปและขับหนีไปอย่างรวดเร็วจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตัวก็ต้องขับรถของคนร้ายขับไล่ตามไปอีกจากนั้น

ทางฝั่งของคนร้ายนั้นก็ได้ขับรถยนต์หลบหนีไปที่จังหวัดกาฬสินธุ์และได้ขับไปโพล่ที่จังหวัดนครพนมซึ่งก็ได้บันทึกรูปภาพเอาไว้ได้เป็นด่านจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่ของตำบลหนองบ่อ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม สำหรับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คนร้ายได้ลักรอบขับมาซึ่งมันก็ได้เป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คนร้ายนั้นขับและก็ได้ขับผ่านด่านตรวจคัดกรองไปเลย

ลำดับเหตุการณ์ให้ได้ฟังกันแบบนี้ในช่วงบ่ายของเมื่อวานประมาณซักบ่าย2ครึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ เขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ก็ได้ขับรถยนต์เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยไปตามถนนสายนาคูจากนั้นพอเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถไปถึงที่หน้าการอำเภอเขาวง จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้พบรถกะบะของผู้ต้องสงสัย อีซูซู สีส้ม ทะเบียน 7กฎ431กรุงเทพ

ที่ได้จอดอยู่ฝั่งริมถนนที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้จอดรถยนต์ขวางหน้ารถเอาไว้ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงมาจากรถและก็ขอทำการตรวจรถกะบะคันที่ต้องสงสัย ผู้ชายวัยรุ้นที่ขับรถกะบะผู้ต้องสงสัยก็ได้ฉวยโอกาสในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเผลอลงมาจากรถยนต์ของตัวเองรีบวิ่งหนีไปที่รถของตำรวจ ซึ่งรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้จอดติดเครื่องเอาไว้ไม่ได้ถอดกุญแจออกมา ซึ่งเขาก็ได้ขับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการหลบหนีกันไปเลย

จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขึ้นไปบนรถของคนร้ายแล้วก็ขับรถตามหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ก็ได้วิทยุแจ้งเพื่อให้ช่วยกันทำการจะกัดจับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้มีคนร้ายได้ขับเอาไปคนร้ายก็ได้ขับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจหนีไปเส้นทางจากอำเภอเขาวงจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าไปพื้นที่ อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร จากนั้นก็ได้ขับต่อไปเส้นทางอำเภอโครศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร และได้เข้าสู่พื้นที่ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม

จากนั้นก็ได้ทำการตรวจรถกะบะของคนร้ายผลปรากฎว่าไปเจอยาบ้าจำนวน สองมัด 4,000เม็ดซึ่งมันก็ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้คนร้ายนั้นได้ลักรอบขับรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลบหนี

 

สนับสนุนโดย  rb888

ปัญหาเกี่ยวกับความเอื้ออารีหลังจากที่มีการเปิดให้ใช้งานตู้ปันสุข

       ช่วงนี้ประเทศไทยจะเห็นว่าหลายๆจังหวัดได้มีการนำแนวความคิดนำตู้ที่เราเรียกกันว่าตู้ปันสุขออกมาวางไว้ตามจุดต่างๆซึ่งภายในตู้นั้นจะมีข้าวสารอาหารแห้งนมปลากระป๋องหรือแม้แต่ขนมนำมาวางไว้ในตู้เพื่อที่จะให้ใครก็ได้ที่ขาดแคลนสามารถมาหยิบของในตู้นั้นได้ฟรีโดยจ่ายเงินเลย

ซึ่งหลายคนมองว่าหากใครที่มีความสามารถพอที่จะซื้อของมาใส่ที่ตู้เพื่อเป็นการแบ่งปันให้กับคนอื่นได้ก็สามารถนำมาใส่ที่ตู้ต่างๆได้เลยโดยที่ไม่ต้องมาแสดงตนว่าใครเป็นคนนำของเรานั้นบริจาคเพราะเป็นตู้ที่ให้สำหรับทุกคนเอาไว้ร่วมแบ่งปันกันในขณะเดียวกันคนที่มารับของจากตู้นั้นก็ควรจะต้องมีจิตสำนึกที่ดีในการที่จะมาหยิบของไปโดยต้องมองว่าเราขาดแคลนอะไรแล้วเอาไปเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นซึ่งตุ้ปันสุขนี้ จะมีการนำของมาเติมให้กับประชาชนเรื่อยๆ

จากผู้ที่มีจิตใจบุญที่อยากจะช่วยเหลือผู้ยากไร้แต่จำนวนผู้ยากไร้ที่ขาดแคลนอาหารนั้นค่อนข้างมีเยอะดังนั้นเราจึงควรต้องแบ่งปันซึ่งกันและกันไม่ควรที่จะนำของในตู้ไปเองทั้งหมดโดยปัญหาที่เรากำลังคบอยู่ในปัจจุบันนั้นก็คือความเห็นแก่ตัวของคนบางคนซึ่งเรามักจะพบว่าเมื่อนำของมาวางไว้ในตู้นั้นคนที่มาหยิบของจากในตู้ไม่หยิบในปริมาณที่พอเพียงเท่านั้น

แต่กลับหยิบไปเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในตู้ซึ่งเอาไปเก็บไว้ที่บ้านโดยกลัวว่าจะไม่มีกินหรือจะขาดแคลนซึ่งไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งหลายที่มีการระบุอย่างชัดเจนว่าแต่ละคนที่จะหยิบของไปได้นั้นหยิบได้ไม่เกินกี่ชิ้นแต่เมื่อเรามีการตั้งกล้องตรวจสอบดูก็จะเห็นว่าผู้ที่มารับของที่ตู้ไปนั้นไม่ทำตามเงื่อนไขที่มีการระบุเอาไว้ให้เลย

ซึ่งบางสถานที่อย่างเช่นบางคนมีการตั้งตู้ไว้ที่หน้าบ้านของตนเองเมื่อของในตู้หมดคนที่มาเพื่อหวังจะเอาของภายในตู้แล้วไม่ได้ก็จะไปกดกริ่งที่หน้าบ้านของเจ้าของตู้เพื่อหวังที่จะให้เจ้าของตู้เอาของออกมาให้ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งดังนั้นจึงมีหลายคนที่มองว่าเมื่อมีการช่วยเหลือออกไปแล้วถูกกระทำเหมือนถูกคุกคามอย่างเช่น

การกดกริ่งหรือการตะโกนด่าเมื่อคนที่มาเอาของแล้วไม่มีของจะให้ทำให้หลายคนเริ่มที่จะเลิกล้มความคิดที่จะมีการช่วยเหลือและแบ่งปันคนไทยด้วยกันและมีไหลคลิปที่มีการออกมาเผยแพร่เรื่องของคนที่มาเอาของที่ตู้ปันสุข แล้วเกิดการแย่งและทะเลาะกันทำให้หลายฝ่ายเริ่มหันมามองว่าการที่ทำตู้ปันสุขออกมานี้มันดีจริงหรือไม่

        อย่างไรก็ดีอยากให้หลายๆคนคิดถึงว่าสิ่งที่เราได้จากตู้ปันสุขนั้นเป็นสิ่งที่คนนำมาบริจาคให้ดังนั้นควรจะนึกถึงคนอื่นๆที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกันกับเราว่าเราควรจะแบ่งปันให้กับคนอื่นด้วยเช่นเดียวกันเพราะตู้ปันสุขนั้นจะมีการนำมาเติมของให้เป็นประจำอยู่แล้วดังนั้นเราควรเอาของไปแค่พอใช้พอกินชั่วคราวก่อนและเมื่อหมดเราสามารถมาหยิบเพิ่มได้ภายหลัง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8 line

ร้านค้าพังเสียหาย

ร้านค้าพังเสียหายเหตุเพราะไม่ขายเหล้าในช่วงเคอร์ฟิว 

          เมื่อคืนวันที่ 9 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ช่วงเวลาประมาณห้าทุ่มตรง  ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีว่ามีกลุ่มวัยรุ่นได้บุกเข้ามาทำร้ายทำลายข้าวของจนได้รับความเสียหายเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุพบว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นอยู่ตรงริมถนนบายพาส 36 แล้ว

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบว่าสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นร้านค้าเจ้าของร้านบอกว่าตนเองถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 กว่าคนเข้ามาทำร้ายพังข้าวของภายในร้านส่วนสาเหตุที่ร้านถูกพังนั้นเนื่องจากว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมาขอซื้อเหล้าในช่วงเวลาเคอร์ฟิวเมื่อถูกทางร้านปฏิเสธไม่ขายของให้กลุ่มวัยรุ่นเกิดความไม่พอใจจึงได้พากันมาทำร้ายและทางเข้าของภายในร้านรวมถึงรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านพังเสียหายโดยเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณตั้งแต่ สี่ทุ่มในตอนแรกนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 3 คน

ได้เดินทางมาที่ร้านเดินมาขอซื้อเหล้ากับทางเจ้าของร้านซึ่งตอนนั้นร้านได้ปิดเรียบร้อยแล้วแต่ทางวัยรุ่นได้มาตะโกนขอเลือกซื้อเหล้าโดยทางเจ้าของร้านก็บอกว่าตอนนี้ร้านปิดแล้วเพราะเป็นช่วงเคอร์ฟิวไม่สามารถขายให้ได้พอวัยรุ่นทั้ง 3 คนรู้ว่าเจ้าของร้านไม่ยอมขายเหล้าให้ก็บอกตะโกนด่าด้วยคำพูดที่หยาบคายอยู่หน้าร้านซึ่งยืนด่าได้สักพักหนึ่งทั้งสามคนก็ออกไป

หลังจากนั้นไม่นานทั้งสามคนก็กลับมาใหม่หลังจากนั้นก็เข้ามาทำร้ายคนภายในร้านได้มีการทำลายข้าวของภายในร้านซึ่งลูกชายที่อยู่ในร้านและก็ลูกสะใภ้ก็ได้พยายามห้ามไม่ให้ทั้ง 3 คนทำลายข้าวของภายในร้านหลังจากที่กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาทำลายข้าวของภายในร้านประมาณซัก 10 นาทีพวกเขาก็ออกไปหลังจากนั้นก็พาคนกลับเข้ามาอีกครั้ง

หนึ่งปีนี้รอบนี้มีคนมาเยอะกว่าเดิมและพามาทำลายข้าวของเพิ่มเติมอีกมีการทุบตีข้าวของทุบรถได้รับความเสียหายซึ่งทางเจ้าของร้านที่เป็นลูกชายและภรรยาของเขาต้องมีการหนีไปหลบซ่อนอยู่ที่หลังบ้านโดยซ่อนไว้อยู่ในเล้าไก่เพราะกลัวจะถูกทำร้ายชนกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดสั่งของภายในร้านหมดแล้วพอใจแล้วก็พากันจากไปหลังจากนั้นลูกชายกับลูกสะใภ้ก็เลยไป

แจ้งความที่สถานีตำรวจโดยทางเจ้าของร้านบอกว่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาทำร้ายข้าวของภายในร้านนั้นปกติจะมาซื้อเหล้าที่ร้านนี้เป็นประจำอยู่แล้วและจำได้ด้วยว่าบางคนไม่มีเงินก็มาขอติดไว้ก่อนแล้วอีก 2-3 วันถึงเอาเงินมาใช้เกินเส้นทางเจ้าของร้านเองก็ยอมทุกครั้งไม่เคยว่าอะไรแต่การที่กลุ่มวัยรุ่นมาพังข้าวของภายในร้านนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งแล้วตัวเขาเองก็ไม่คิดว่ากูไม่รู้ดังกล่าวจะกล้าขนาดที่จะเข้ามาพังข้าวของภายในร้านด้วยเช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนโดย  rb88

ช่วยเหลือพระธุดงค์หลงป่า ป่าดงใหญ่

วันนี้เราได้ติดตามความช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ที่ได้หลงเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติป่าดงใหญ่ในพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเบื้องต้นแล้วโดยพระภิกษุสงฆ์ทั้ง3รูปต้องบอกกับคนอ่านก่อนคือตัวท่านเองได้เข้าไปธุดงค์ตั้งแต่วันที่29เมษายนพระภิกษุสงฆ์3รูปที่ว่าผลปรากฏว่าได้หายไปกันหมดเลยหลังจากนั้นโชคดีก็คือในขณะที่ท่านนั้นได้หลงป่า

มีพระอยู่รูปหนึ่งที่สัญญาณโทรศัพท์ติดจากนั้นก็ได้โทรศัพท์มาบอกญาติ ซึ่งในตอนที่ได้โทรศัพท์มาบอกญาติจากนั้นมันก็ได้มีปรากฏการณ์เกิดขึ้นเขาก็ได้ตามหาและสัญญาณโทรศัพท์มันก็ได้ติดๆดับๆเพราะว่ามันเป็นป่าเขาจากในภายหลังเจ้าหน้าที่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเก่งมากเจ้าหน้าที่ก็ได้บอกกับพระรูปหนึ่งที่สัญญาณโทรศัพท์มือถือ

ติดบอกว่าเดียวให้ฟังเสียงไซเรนจะเอารถเข้าไปเปิดเสียงไซเรนและก็จะให้เดินออกมาแต่ในความลำบากนั้นคือพระใน3รูปนี้ก็ได้มีอีกหนึ่งรูปที่อาอาภาพที่ได้เป็นโรคเก๊าเลยบอกให้พระ2รูปบอกว่าเดินไปตามเสียงไซเรนและพระอีกหนึ่งรูปให้นั่งพักก่อนไปๆมาๆก็หลงอีกสุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ได้เดินขึ้นไปถึงตรงเขตดงพญาเย็นเขตอุทยานแห่งชาติป่าดงใหญ่

ไปช่วยพระออกมาได้ก่อนสองรูปซึ่งพระสองรูปนี้ท่านก้ได้ออกมาอย่างปลอดภัยและในสภาพของพระในช่วงนั้นอิดโรยมากถามพระทั้งสองรูปก็ได้บอกว่าและพระอีกหนึ่งรูปนั้นคือใครก็คือหลวงพี่อ้วน ซึ่งหลวงพี่อ้วนนั้นแก่เป็นโรคเก๊าและท่านก็ได้บอกให้พระสองรูปนี้ให้เดินตามเสียงสัญญาณไซเรนออกไปก่อนจากนั้น

พระสองรูปนี้ก็เลยออกมาได้ส่วนหลวงพี่อ้วนนั้นออกไม่ได้ เมื่อวันที่29เมษายนพระทั้งสองรูปก็คือพระสุชาติและพระวิรัตน์รวมไปถึงพระหลวงอ้วนด้วย แต่พระสุชาติและพระวิรัตน์นั้นได้ออกมาก่อนท่านได้ไปติดอยู่ภายในป่าอยู่ประมาณสองวันและตอนออกมานั้นสภาพดูอิดโรยแต่สิ่งที่หน้าเป็นห่วงมากที่สุดเลยก็คือหลวงพี่อ้วน

ซึ่งจะต้องอยู่ในป่าต่อและก็ออกมาไม่ได้ซึ่งในปฏิบัติการคนหาในวันนี้ซึ่งก็ได้มีเจ้าหน้าที่100กว่าชีวิตซึ่งในวันนั้นเขาได้ทำการปูพรมค้นหากันครั้งใหญ่ซึ่งก็ได้มีกำลังของอาสากู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากที่พระทั้งสองนั้นปลอดภัยก็ได้ตามหาหลวงพี่อ้วนโดยจุดแรกนั้นก็จะต้องลัดเลาะเข้าไปที่ป่าเขาซึ่งการเดินทางจะต้องเดินทางไปด้วยรถใหญ่เต็มไปด้วยความยากลำบากและมันก็ยังได้มีความสลับซับซ้อนและที่สำคัญรถสามารถเคลื่อนตัวได้ช้า

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  rb88 ทางเข้า

ถ้าต้องเปิดการเรียนออนไลน์ในช่วงโควิดระบาด

ถ้าต้องเปิดการเรียนออนไลน์ในช่วงโควิดระบาด อาจเป็นการสร้างความเลื่อมล้ำทางการศึกษา

        ช่วงนี้ที่ไวรัสโควิดกำลังระบาดแต่ก็ดันเป็นช่วงที่เด็กนักเรียนและนักศึกษากำลังจะเปิดเทอมทำให้รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการต่างก็ต้องปวดหัวกันเป็นอย่างมากว่าหากถึงช่วงเดือนที่จะต้องเปิดการศึกษาเด็กนักเรียนจะสามารถไปโรงเรียนได้หรือไม่ในสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่สามารถควบคุมไม่ให้เชื้อไวรัสระบาดได้เลยดังนั้นความคิดหนึ่งที่กระทรวงศึกษาธิการมีขึ้นมานั่นก็คือการเปิดการเรียนการสอนผ่านทางระบบออนไลน์

ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยให้ทางโรงเรียนมีการส่งเอกสารไปสำรวจกับผู้ปกครองว่าใครสะดวกที่จะเรียนออนไลน์ได้หรือไม่ไกลมีคอมพิวเตอร์อยู่ที่บ้านหรือมี laptop อยู่ที่บ้านพอที่จะสามารถเปลี่ยนผ่านระบบออนไลน์ได้หรือเปล่าระบบ Wifi ระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ตของที่บ้านของผู้ปกครองคนไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร

ซึ่งหลังจากที่มีการประเมินข้อมูลแล้วก็พบว่าหากเรามีการปล่อยให้มีการเรียนออนไลน์เกิดขึ้นจะเกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนระหว่างเด็กในกรุงเทพฯและเด็กต่างจังหวัดเนื่องจากผู้ปกครองแต่ละคนมีต้นทุนชีวิตไม่เท่ากันดังนั้นเด็กนักเรียนจึงไม่ใช่ทุกบ้านที่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ประจำบ้านและมีอินเทอร์เน็ตพอที่จะให้เด็กนักเรียนเรียนผ่านออนไลน์ได้ทุกหลังคาเรือนซึ่งถ้าหากจำเป็นจะต้องมีการเปิดการเรียนออนไลน์จริงๆทางรัฐบาลก็คงจะต้องมีการแต่คอมพิวเตอร์ให้กับผู้ปกครองบ้านหลังคาเรือนเลยทีเดียวยิ่งเด็กต่างจังหวัดแล้วเงินที่จะใช้ซื้อข้าวกินในแต่ละวัน

ยังค่อนข้างหาลำบากดังนั้นอย่าเพิ่งถามถึงเรื่องของคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตที่จะติดเอาไว้ใช้สำหรับเรียนได้เลยซึ่งถ้าหากมองว่าหากโรงเรียนไหนมีความพร้อมก็สามารถเปิดออนไลน์ได้นั้นก็กลายเป็นว่าจะมีข้อเปรียบเทียบให้เด็กเห็นอยากได้ชัดเจนโดยเด็กที่เรียนโรงเรียนเอกชนก็จะถูกมองว่าเป็นเด็กที่ร่ำรวยสามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้

เพราะที่บ้านมีคอมพิวเตอร์มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตในขณะที่เด็กเรียนโรงเรียนรัฐบาลหรือโรงเรียนวัดก็จะไม่สามารถเรียนได้จำเป็นจะต้องหยุดการเรียนการสอนไปก่อนเพื่อรอให้เชื้อไวรัสสามารถควบคุมได้หลังจากนั้นทางโรงเรียนถึงจะเปิดให้นักเรียนไปเรียนซึ่งแน่นอนว่าหากทำเช่นนี้เด็กที่เรียนออนไลน์ก็จะเรียนได้เร็วกว่าและเด็กที่ต้องรอโรงเรียนเปิดแล้วไปเรียนกับทางคุณครูเองนั้น

ก็จะเรียนได้ช้ากว่าทั้งที่อายุเท่ากันซึ่งนี่จะเกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นมาในสังคมและของตัวเด็กนักเรียนเองดังนั้นอาจจะต้องมีการเรื่องการเรียนการสอนออกไปในช่วงที่ยังมีการระบาดของเชื้อไวรัสนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการอาจจะต้องมีการตัดสินใจให้ดีเพื่อไม่ให้เด็กเกิดความรู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำของฐานะตนเองกับคนอื่น

 

ขอบคุณ  next88 thailand  ที่ให้การสนับสนุน

โรงพยาบาลบางเลนป่วนเพราะผู้ป่วยไม่ยอมบอกข้อมูล

โรงพยาบาลบางเลนป่วนเพราะผู้ป่วยไม่ยอมบอกข้อมูลที่ถูกต้องทำหมอพยาบาลต้องกักตัว เพราะผู้ป่วยรายล่าสุดติดเชื้อไวรัส โควิด-19  

          การประกาศออกมาจากโรงพยาบาลบางเลนจังหวัดนครปฐมว่าตอนนี้สถานการณ์ของโรงพยาบาลค่อนข้างที่จะวิกฤตเนื่องจากปกติแล้วเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลต่างก็มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19  อยู่ประมาณ 10 กว่าคนซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่พบผู้ป่วยรายล่าสุดรวมแล้วล่าสุดนี้จะเป็นลายที่ 15 ที่มารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 

แต่ปัญหาที่ทางโรงพยาบาลกำลังพบอยู่ในขณะนี้ก็คือผู้ป่วยรายล่าสุดไม่ยอมแจ้งข้อมูลทั้งหมด แล้วเข้ามารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางเลนซึ่งมีทั้งหมอและพยาบาลถูกเนื้อต้องตัวผู้ป่วยรายนี้หลังจากนั้นจึงมารู้ภายหลังว่าผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษารายล่าสุดนี้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำเอา

โรงพยาบาลต้องสั่งโรงพยาบาลเป็นการด่วนเพื่อทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทางโรงพยาบาลรวมถึงทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆและที่สำคัญขนาดนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกมายอมรับว่าจะต้องมีการปรับตัวนายแพทย์พยาบาลรวมถึงผู้ที่อยู่ในโรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการว่ามีใครบ้างที่ได้รับเชื้อไวรัสจากผู้ป่วยรายล่าสุดนี้

       แล้วเมื่อแพทย์ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19ของผู้ป่วยรายล่าสุดจึงได้สอบถามข้อมูล  อุปกรณ์ดังกล่าวจึงได้ยอมรับสารภาพว่ามีการไปสัมผัสเพื่อนที่เป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19มาก่อนหน้านี้จึงทำให้ตัวเองติดเชื้อไวรัสโควิด-19ตามเพื่อนไปด้วย

       เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะความเห็นแก่ตัวของคนแค่คนเดียวที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือกับทางหมอและพยาบาล  บางทีก็มีการประกาศออกสื่ออยู่ตลอดเวลาว่าหากมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคุณควรจะให้ข้อมูลทั้งหมดให้หมอและพยาบาลทราบว่าคุณไปที่ไหนมาติดต่อใครบ้างหรือเป็นคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19หรือไม่เพื่อที่หมอและพยาบาลจะได้มีการป้องกันตนเองเพราะถ้าหากยังเป็นเช่นนี้อยู่หมอและพยาบาลก็จะติดเชื้อไวรัสจากคนไข้และหมอพยาบาลกลายมาเป็นคนไข้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตัวเองคุณคิดว่าใครจะเป็นคนรักษาของคุณให้หายป่วยจากอาการเชื้อไวรัสโควิด-19ได้กัน

ดังนั้นควรจะมีความคิดให้มากกว่านี้เวลาที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพบว่าตัวเองน่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรจะมีการบอกกล่าวให้คุณหมอและพยาบาลได้มีการระวังตัวเพื่อที่จะได้ไม่ไปเป็นการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19ให้กับคนอื่นเพราะนอกจาก จะเป็นการแพร่เชื้อให้กับทางคุณหมอและพยาบาลที่รักษาคุณแล้วนำไปเป็นการแพร่เชื้อให้กับประชาชนคนอื่นที่เขาอาจจะมาเยี่ยมญาติ

ซึ่งป่วยเป็นโรคธรรมดาก็ได้และถ้าหากใครก็ตามที่เขาป่วยอยู่แล้วก็ต้องมาติดเชื้อจากคุณเอกอาการของเขาก็จะลดลงซึ่งจะส่งผลให้เสียชีวิตได้ดังนั้นหากใครก็ตามที่รู้ตัวเองว่าน่าจะได้มีการคลุกคลีกับผู้ติดเชื้อไวรัสมาควรจะมีการแจ้งให้หมอและพยาบาลทราบเป็นข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8

เจ้าสาวถูกล่วงละเมิดในคืนแต่งงาน

เจ้าสาวถูกล่วงละเมิดในคืนแต่งงานจากเพื่อนของเจ้าบ่าวโดยอ้างเหตุผลเมาหนัก คิดว่าเจ้าสาวคือเมียของตัวเอง 

     เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์  ซึ่งเกิดขึ้นในงานแต่งงานงานหนึ่ง โดยเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้มีการจูงมือกันไปแจ้งความที่สถานีตำรวจมีเช้าของวันรุ่งขึ้นของการแต่งงานที่ควรจะเป็นวันที่หอมหวานของคนทั้งคู่แต่กลับเป็นวันที่เลวร้ายของคนทั้งคู่โดยเฉพาะเจ้าสาวหมาดๆโดยทางเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในคืนวันแต่งงานนั้น

เมื่อหลังจากที่งานเลี้ยงเลิกเสร็จเรียบร้อยแล้วจำนวน 3-4 คนได้อยู่ต่อเพื่อเลี้ยงฉลองกับเจ้าบ่าวโดยทั้งหมดได้เปิดโรงแรมไว้ห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องสวีทโดยในห้องนั้นจะมีห้องนอนและแบ่งเป็นห้องนั่งเล่นในคืนนั้นหลังจากที่มีการส่งตัวกันเรียบร้อยแล้วเจ้าสาวได้ขอตัวมานอนพักผ่อนอยู่ในห้องนอนเนื่องจากเหนื่อยล้าจากการต้องรับรองแขกเป็นเวลานานทั้งวัน

โดยเจ้าสาวได้มีการนอนหลับอยู่ในห้องนอนส่วนเจ้าบ่าวนั้นก็อยู่กินเลี้ยงกับเพื่อนอีกห้องหนึ่งที่อยู่ติดกับห้องเจ้าสาวโดยเจ้าบ่าวเล่าว่าเมื่อมีการกินกันไปได้สักพักนึงเพื่อนคนอื่นๆก็ต่างพากันทยอยกันกลับบ้าน โดยมีเพื่อนชายอยู่คนนึงที่เมานอนหลับอยู่บนโซฟาโดยเจ้าบ่าวพยายามปลูกอย่างไรเพื่อนชายคนดังกล่าวก็ไม่รู้สึกตัวและตัวเจ้าบ่าวเองก็มีอาการเมามาเป็นอย่างมากจึงได้ผลอยหลับไปตรงโซฟาตรงที่ชายคนดังกล่าวนอนหลับนั่นเอง

หลังจากนั้นเขาก็ตื่นขึ้นมาเพราะว่าภรรยาใหม่ๆของเขาที่เพิ่งแต่งงานกันมาสะกิดเรียกให้เขาช่วยเหลือโดยบอกกับเขาว่าเพื่อนของเขาเดินเข้าไปในห้องนอนและทำการจะปลุกปล้ำเธอซึ่งเพื่อนของเจ้าบ่าวได้ล้วงหน้าอกและล้วงส่วนด้านล่างของภรรยาของเขาและเมื่อเจ้าบ่าวเดินเข้าไปดูในห้องนอนก็พบว่าเพื่อนของเจ้าบ่าวอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบน

เมื่อเขาเห็นดังนั้นทำให้เขาโกรธมากแต่เพื่อนของเขาก็พยายามอธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจเกิดจากที่มีอาการเมาหนักมากเข้าใจผิดคิดว่าอยู่บ้านของตนเองจึงละเมอเดินเข้ามาในห้องของเจ้าสาวและทำการล้วงไปที่หน้าอกของเจ้าสาว

แต่ยังไม่ได้ถึงขนาดที่จะมีเพศสัมพันธ์กันโดยเพื่อนเจ้าบ่าวได้พยายามขอโทษเจ้าบ่าวแต่ทางเจ้าบ่าวเองและเจ้าสาวไม่ยอมได้ทำการไล่เพื่อนเจ้าบ่าวออกไปจึงพากันมาแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดี

     เหตุการณ์ในครั้งนี้สร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงให้กับครอบครัวนี้เป็นอย่างมาก  เนื่องจากว่าตั้งแต่เกิดเรื่องพวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้เพราะเกิดความระแวงคลางแคลงใจกันเขาเองก็ไม่สามารถที่จะอยู่กับเจ้าสาวที่ถูกเพื่อนเรียนรามได้ทำให้ชีวิตคู่ของเขาไปกันไม่รอดซึ่งตอนนี้ทั้งคู่อยู่ระหว่างการดำเนินเรื่องขอหย่าขาดออกจากกัน

    อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ถือว่าไม่ใช่ความผิดของฝ่ายหญิงอันที่จริงเป็นความผิดของฝ่ายชายด้วยซ้ำที่ชักชวนเพื่อนๆมากินเหล้าการต่อในคืนแต่งงานแทนที่จะนอนอยู่ในห้องกับภรรยาของตนเอง 

มีชายเสื้อดำ ได้ทำการป้ายน้ำลายภายในลิฟท์ของรถไฟฟ้า BTS 

   จากกรณีที่มีผู้ใช้ Facebook ได้นำข้อมูลมาเผยแพร่เป็นคลิปวีดีโอของชายเสื้อดำและใส่กางเกงสีแดงซึ่งชายคนดังกล่าวได้เดินเข้ามาในบริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTSแห่งหนึ่ง และเดินตรงไปยังฤทธิ์ภายในสถานีกล้องวงจรปิดภายใน L ได้ถ่ายภาพพบว่าชายคนดังกล่าวเมื่อเดินทางเข้ามาถึงในลิฟท์แล้วก็ปิดประตูลิฟท์หลังจากนั้นก็ได้นำมือล้วงเข้าไปในปากเพื่อที่จะเอาของแล้วออกมาจากปากแล้วนำมาเช็ดตามผนังของลิฟท์เท่านั้นยังไม่พอ

ใช่คนดังกล่าวยังได้นำมือล้วงเข้าไปเช็ดที่อวัยวะเพศแล้วนำออกมาเช็ดภายในบริเวณลิฟต์อีกด้วยซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้พบเห็นจึงได้พากันเดินเข้าไปเพื่อต้องการจะสอบถามเกี่ยวกับการกระทำของชายเสื้อดำคนดังกล่าวแต่เมื่อใช้เสื้อดำเห็นหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ได้เดินตรงมายังตนเองก็พยายามวิ่งหนีซึ่งชายชุดดำได้วิ่งออกไปทาง ประตูทางออกถนนพระราม 1 หลังจากนั้นก็วิ่งหายแทรกไปกับฝูงชน

โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นช่วงเวลาเช้าตรู่ของคืนวันที่ 20 เดือนมีนาคมปี 2020 ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดมีการบันทึกไว้ว่าเหตุการณ์เกิดตอนเวลา 5:30 นโดยทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้สังเกตเห็นความผิดปกติของไทเกอร์ดำตั้งแต่เดินเข้ามาในสถานีแล้วจึงได้พยายามตามกล้องวงจรปิดต่างๆ

ที่ทางชายเสื้อดำเดินผ่านแล้วก็มาพบว่ามีการกระทำนำน้ำลายมาป้ายภายในลิฟท์อย่างที่พบเห็นในคลิปวีดีโอที่มีการเผยแพร่กันอยู่ในขณะนี้นั่นเองซึ่งปัจจุบันนี้ทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำคลิปดังกล่าวไปให้ตำรวจดูโฉมหน้าของชายเสื้อดำเพื่อต้องการให้นำตัวมาดำเนินคดีและตรวจหาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

เนื่องจากการกระทำของชายเสื้อดำคนดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวให้กับประชาชนที่รับทราบเหตุการณ์นี้เป็นจำนวนมากว่าชายคนดังกล่าวอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและต้องการที่จะแพร่เชื้อให้กับคนอื่นเป็นเหมือนกันตนโดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการดูแลสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้ออกมาประกาศผ่านเพจส่วนตัวของสถานีว่าขอให้ประชาชนได้มั่นใจในความปลอดภัยทางบริษัทมีการดูแลเกี่ยวกับระบบความสะอาด

เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าอยู่แล้วซึ่งจะมีการฉีดการฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าทุกๆ 1 ชั่วโมงดังนั้นทางสถานีรถไฟฟ้า BTS จึงต้องการให้ประชาชนมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัยทั้งจากตัวบุคคลร้ายและทำจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสว่าลูกค้าที่มาใช้บริการจะไม่ติดเชื้อโคโรน่าจากสถานีรถไฟฟ้า BTS แน่นอน

ลุงขวางรถกู้ภัยก็ไม่ขออนุญาตก่อนบุกรุกที่ 

    จากเหตุการณ์ที่มีการแชร์คลิปเกี่ยวกับกู้ภัยยืนทะเลาะกับชาวบ้านคนหนึ่งโดยรายละเอียดในคลิปจะเห็นว่ากู้ภัยพยายามที่จะต่อว่าชายคนดังกล่าวซึ่งชายคนนั้นยืนยันว่าตนเองเป็นเจ้าของที่และต้องการสอบถามสาเหตุที่กู้ภัยพยายามที่จะบุกเข้ามาในที่ของตนเองซึ่งทางคุณลุงเองแจ้งว่าตนเองกำลังทำงาน

โดยทางเจ้าของที่บอกว่าก่อนหน้านี้มีรถพยาบาลเข้าไปเรียบร้อยแล้วฉันต้องการทราบเหตุผลว่ารถกู้ภัยจะตามรถพยาบาลเข้าไปเพื่อสาเหตุอะไรแต่ทางผู้ภัยเองดูมีอารมณ์หัวรุนแรงและพยายามต่อว่าลุงเจ้าของที่ตลอดเวลาโดยไม่พยายามชี้แจงใดๆว่าตนเองต้องการเข้าไปทำอะไรที่สุดแล้วทางเจ้าของที่ก็ไม่ได้อนุญาตให้รถกู้ภัยคันดังกล่าวเข้าไปในพื้นที่ของตนเอง

       จากเหตุการณ์ที่เราเห็นในคลิปนี้ ทางนักข่าวได้ลงไปในพื้นที่เพื่อสอบถาม ชายเจ้าของที่ดินคนดังกล่าวซึ่งได้ความว่าอีกฝากหนึ่งของที่ดินของเขาพบว่ามีคนจมน้ำเสียชีวิตซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีรถพยาบาลหลักฐานที่ดินของลงไปเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นก็มีรถของกู้ชีพจะเข้ามาในที่ดินของตนเองอีกครั้งซึ่งไม่ได้ขออนุญาตหรือตะโกนบอก อะไรเลย

ตนเองจึงได้ขวางและสอบถามแปลว่าทำอะไรแต่กู้ภัยคนดังกล่าวก็ไม่ยอมอธิบายหรือชี้แจงอะไรต่อว่าว่าตนไม่มีน้ำใจอย่างเดียวทำให้ตนเองโมโหจึงไม่อนุญาตให้ทางรถกู้ภัยคันดังกล่าวเข้าไปในไร่ของตนเองได้ซึ่งตัวเองทราบมาว่าก่อนหน้านี้ไม่มีรถกู้ภัยมาเรียบร้อยแล้วในชุดแรกและจอดอยู่อีกฟากหนึ่งแต่รถกู้ภัยคันนี้เป็นชุดที่ 2 ที่พยายามจะเข้ามา

แต่ติดรถกู้ภัยชุดแรกจึงไม่เบี่ยงมาที่ของตนเองลุงเจ้าของที่ยังบอกอีกว่าไม่ได้หวงถ้าหากกู้ภัยจะเข้าไปเพื่อช่วยเหลือคนเพียงแต่ว่าต้องบอกกล่าวว่ามากันกี่คนแล้วมาทำอะไรการที่กู้ภัยขับรถผ่านไปเลยโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของที่ทั้งๆที่เขายืนอยู่ตรงนั้นเป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าของที่และถือว่าเป็นการไม่มีมารยาทอย่างมากส่วนทางด้านกู้ภัยเองก็ได้ออกมาเล่าว่าตนเองเป็นกู้ภัยชุดที่ 2 ที่ต้องการจะเข้าไปแต่เข้าไปทางตรงไม่ได้เนื่องจากติดรถกู้ภัยชุดแรกที่มาจอดกันเต็มไปหมด

จึงได้อ้อมเพื่อที่จะมาเข้าที่ทางเข้าไม่เป็นไรของลุงคนดังกล่าวแต่เมื่อมาถึงคุณลุงไม่ยอมให้เข้าจึงได้เกิดการปะทะกันขึ้นซึ่งทางกู้ภัยเองก็บอกว่าอยากจะให้คุณลองเปิดใจให้กับทางผู้ไปได้เข้าไปช่วยเหลือคนเพราะที่ทำไปก็ไม่ได้เงินค่าจ้างอะไรช่วยด้วยใจเท่านั้นซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิตเองก็ได้ออกมาบอกว่าโดยปกติแล้วคุณลุงเป็นคนดีมีน้ำใจแต่อาจจะมีการเกิดผิดพลาดจากการสื่อสารกัน

ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอาการหนัก

ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่าอาการหนักเป็นนักท่องเที่ยวชายชาวเบลเยียมปอดหายไปข้างนึงแล้ว

           จากกรณีที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเป็นจำนวนมากอยู่ในประเทศไทยณขณะนี้ซึ่งทางโรงพยาบาลที่รับรักษาตัวผู้ป่วยที่ป่วยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรน่าค่อนข้างมีจำนวนจำกัดเพราะมีแค่โรงพยาบาลของรัฐและเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดเท่านั้นที่จะมีอุปกรณ์เหมาะสมและเพียงพอที่จะสามารถรักษาผู้ป่วยไข้ไวรัสโคโรน่าได้ทำให้ตอนนี้มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของเตียงที่จะให้ผู้ป่วยนอนพักรักษาตัวค่อนข้างเต็ม

ในแต่ละโรงพยาบาลโดยมีข่าวเข้ามาว่ามีผู้ป่วยชายคนนึงซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวเบลเยี่ยมโดยเขาอายุอยู่ที่ประมาณ 67 ปีได้มีการตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคเชื้อไวรัสโคโรน่าโดยเข้ามาทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบุรีหลังจากที่มีการรักษาตัวได้สักระยะหนึ่งพบว่าอาการไม่ดีขึ้นและอาการยิ่งหนักลงขึ้นทุกทีเมื่อทำการเช็คปอดทางคุณหมอแจ้งว่าปอดของผู้ป่วยชาวเบลเยี่ยมคนนี้หายไปแล้ว 1 ข้างซึ่งเชื้อไวรัสโคโรน่าได้มีการกัดกินก่อนของเขาไปดันญาติของชาวเบลเยี่ยมคนนี้ต้องการที่จะย้ายผู้ป่วยให้เข้ามารักษาตัวที่จังหวัดนนทบุรีซึ่งต้องการเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูร

เนื่องจากเป็นสถานที่ที่รักษาผู้ป่วยหลายรายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้วอาการดีขึ้นจึงอยากให้ญาติของตนเองมารักษาตัวที่นี่แต่เมื่อได้ประสานงานมาที่โรงพยาบาลบํารุงราษฎร์นราดูรแล้วพบว่าที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไม่สามารถรับผู้ป่วยเข้ามาเพิ่มได้เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยเต็มโรงพยาบาลแล้วและไม่มีเตียงสำรองพอที่จะให้ผู้ป่วยเข้ามาพักรักษาตัวจึงได้ประสานงานให้ผู้ป่วยย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพิษณุโลกซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการส่งเอกสารและการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลพิษณุโลกอย่างไรก็ดีเกี่ยวกับแผนการตรงนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดของจังหวัดเพชรบูรณ์

ได้ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่อำเภอปลัดอำเภอรวมถึงนักธุรกิจเอกชนของจังหวัด ให้มารวมตัวประชุมและปรึกษาหารือกันเพื่อที่จะหาทางแก้ไขและยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสโคโรน่าระบาดไปมากกว่านี้ซึ่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการลงมติเป็นเอกฉันท์แล้วว่าจะมีการขอปิดสถานประกอบการของจังหวัดเพชรบูรณ์ทั้งหมดเช่นสถานบันเทิง และผับ 

หรือโรงภาพยนต์ เป็นการชั่วคราวก่อนโดยจะเริ่มปิดทำการสถานบันเทิงเหล่านี้ตั้งแต่วันที่ 28 เดือนมีนาคมและจะมีการเปิดให้บริการอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 31 มีนาคมแต่ว่าอาจจะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งนึงด้วยว่าหลังจากที่มีการปิดสถานบันเทิงแล้วจำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงหรือเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ซึ่งอาจจะต้องดูสถานการณ์ว่าหากยังมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแล้วยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายในวันที่ 31 เดือนมีนาคมก็อาจจะมีการขยายการปิดสถานบันเทิงต่อไปซึ่งการแก้ไขนี้จะต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน